ใครที่พลาดงาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 เราได้รวบรวมและคัดไฮไลต์ที่น่าสนใจมาไว้ที่นี่แล้ว พร้อมทั้งพาไปเจาะลึกเทรนด์ที่มาแรงและนวัตกรรมสำคัญที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมสุขภาพในปีต่อไป เพื่อก้าวให้ทันอนาคตของวงการเวลเนส
ปรากฏการณ์แห่งปี ภาพรวมความสำเร็จของงาน
ความสำเร็จของงานในปีนี้สะท้อนให้เห็นถึงกระแสความใส่ใจสุขภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ด้วยผู้เข้าร่วมงานอย่างล้นหลามและบูธจากแบรนด์ชั้นนำกว่า 170 บูธ งาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นเวทีสำคัญที่เชื่อมโยงคนรักสุขภาพ, ผู้ประกอบการ, และนักลงทุนเข้าไว้ด้วยกัน ดังที่ นางสาวณรินณ์ทิพ วิริยะบัณฑิตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอ็มจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า งานนี้ได้กลายเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสุขภาพไทยให้ก้าวสู่ระดับภูมิภาคอาเซียน
ย้อนรอย 9 โซนไฮไลต์ที่อัดแน่นด้วยคุณภาพ
หัวใจของงานคือการจัดแสดงที่ครอบคลุมทุกมิติของการดูแลสุขภาพ นี่คือการเดินทางย้อนรอยไปในแต่ละโซน เพื่อสัมผัสกับประสบการณ์และไฮไลต์ที่น่าจดจำ:
1. Healthcare & Medical Industry Zone – สัมผัสการแพทย์แห่งอนาคต
ที่นี่คือโซนที่เราได้เห็นอนาคตของการดูแลสุขภาพเชิงรุก! บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจกับเทคโนโลยีอย่าง เครื่องสแกนร่างกาย 3 มิติจากชีวาโน่ ที่ทำให้เรารู้จักร่างกายตัวเองดีขึ้น และนวัตกรรมจากคลินิกชั้นนำที่ทำให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องง่ายและไม่น่ากลัวอีกต่อไป
2. Future Food & Food Supplement Zone – สวรรค์ของคนรักสุขภาพ
โซนนี้เปรียบเสมือนซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งอนาคต ที่ทุกผลิตภัณฑ์ถูกสร้างสรรค์ขึ้นบนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ คุณจะได้พบกับอาหารเสริมยุคใหม่และอาหารฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ พิสูจน์ให้เห็นว่าอาหารที่ดีคือยาที่ดีที่สุดจริงๆ
3. Skin Care Zone – ที่สุดแห่งนวัตกรรมความงาม
เป็นโซนที่คนรักผิวพรรณต้องหลงรัก! กลิ่นอายของนวัตกรรมและความงามจากธรรมชาติอบอวลไปทั่วพื้นที่ ไฮไลต์เด็ดคือ สกินแคร์จากทุเรียน ของกลุ่ม EEC ที่พิสูจน์ว่าวัตถุดิบท้องถิ่นของไทยมีศักยภาพระดับโลก
4. Digital Health Zone – ผู้ช่วยสุขภาพในมือคุณ
โซนนี้ทำให้เราเห็นว่าเทคโนโลยีกำลังจะเปลี่ยนการดูแลสุขภาพไปตลอดกาล เต็มไปด้วยแอปพลิเคชันและแกดเจ็ตอัจฉริยะที่ทำหน้าที่เหมือนมีผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพส่วนตัวอยู่ในมือคุณตลอด 24 ชั่วโมง
5. Wellness Zone – พื้นที่แห่งการฟื้นฟูและผ่อนคลาย
ก้าวเข้ามาในโซนนี้เหมือนได้หลีกหนีจากความวุ่นวาย ที่นี่คือพื้นที่แห่งความสงบสุขอย่างแท้จริง คุณจะได้สัมผัสศาสตร์การบำบัดจาก คลินิกแพทย์แผนไทย อนันตา เวลเนส และค้นพบผลิตภัณฑ์ที่ช่วยฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ
6. Fitness & Lifestyle Zone – ปลุกพลังในตัวคุณ
โซนที่เต็มไปด้วยพลังงานและความแอคทีฟ! ตั้งแต่อุปกรณ์ออกกำลังกายใหม่ล่าสุดจาก มาราธอน และ Eco Lifestyle Fitness ไปจนถึงเสื้อผ้ากีฬาดีไซน์เก๋ เป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนอยากลุกขึ้นมาขยับร่างกายทันที
7. Jin Wellbeing County (Specialized Zone) – ต้นแบบสังคมสูงวัยยุคใหม่
โซนพิเศษที่มอบมุมมองอันน่าทึ่งเกี่ยวกับการใช้ชีวิตวัยเกษียณอย่างมีคุณภาพและมีความสุข ที่นี่ได้เปลี่ยนภาพจำของผู้สูงวัยไปอย่างสิ้นเชิง และแสดงให้เห็นถึงอนาคตของการดูแลผู้สูงวัยที่น่าอยู่และเปี่ยมด้วยพลัง
8. Bank & Investor Zone (Specialized Zone) – ขับเคลื่อนธุรกิจ Wellness ให้เติบโต
เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์สุขภาพ คือการสนับสนุนทางการเงินที่แข็งแกร่ง โซนนี้เปรียบเสมือนห้องเครื่องที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการที่มีไอเดียเข้ากับนักลงทุนที่พร้อมผลักดันให้ฝันเป็นจริง
9. Food Zone (Specialized Zone) – อร่อยและดีต่อสุขภาพ
หลังจากเดินชมงานจนทั่ว โซนนี้คือจุดแวะพักที่ดีที่สุด ที่คุณจะได้เติมพลังด้วยอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหลากหลายเมนู ที่คัดสรรมาแล้วว่าอร่อยและดีต่อร่างกาย
Thailand Wellness & Healthcare Expo ศูนย์รวมแห่งความรู้และการเชื่อมต่อ
เสน่ห์ที่แท้จริงของงาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผลิตภัณฑ์ที่จัดแสดง แต่คือการเป็น “ศูนย์กลาง” ที่ผู้คนได้มาพบปะ แลกเปลี่ยน และเรียนรู้ ซึ่งสร้างคุณค่าที่ประเมินไม่ได้ให้กับทุกคนที่เข้าร่วม
- เวทีเสวนา คือ ห้องเรียนสุขภาพขนาดใหญ่
ตลอดทั้ง 4 วัน เวทีกลางของงานได้กลายเป็นห้องเรียนที่อัดแน่นไปด้วยความรู้จากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญตัวจริง ผู้เข้าร่วมงานมีโอกาสได้เรียนรู้เรื่องราวเชิงลึกที่หาฟังจากที่ไหนไม่ได้ ตั้งแต่เรื่องฮอร์โมน, การถอดรหัสยีนส์, นวัตกรรมสเต็มเซลล์ ไปจนถึงเทรนด์การรักษาโรคในอนาคต เป็นการอัปเดตความรู้ด้านสุขภาพที่เข้มข้นและน่าตื่นเต้นที่สุด - พื้นที่แห่งการเชื่อมต่อและต่อยอด
สำหรับผู้ประกอบการ งานนี้เป็นมากกว่าแค่การออกบูธ แต่เป็นพื้นที่แห่งการสร้างเครือข่าย ผ่านกิจกรรม Business Matching ที่เปิดโอกาสให้แบรนด์ไทยได้พบปะกับคู่ค้าจากทั่วโลก สร้างแรงบันดาลใจและโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่จะช่วยยกระดับวงการ Wellness ของไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีกขั้น
เจาะลึก 4 บูธ นวัตกรรมเปลี่ยนโลกที่คุณต้องรู้จัก
จากบูธทั้งหมดที่เราได้ไปสำรวจและถ่ายทำมา มี 4 บูธที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมและแนวคิดที่น่าทึ่ง ซึ่งเราอยากจะนำมาเล่าสู่กันฟังอีกครั้ง
1. Zlive Matter ปฏิวัติการนอนหลับที่ไม่ใช่แค่เรื่องของเวลา
Zlive Matter ได้ท้าทายความเชื่อเดิมๆ ด้วยแนวคิด “นอนน้อย แต่ว่านอนดี” พร้อมนำเสนอนวัตกรรมเส้นใย “4D Ozone Fiber” จากญี่ปุ่น ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนหลับอย่างแท้จริง นี่คือ Game Changer สำหรับคนที่มีเวลานอนจำกัดแต่ต้องการการพักผ่อนสูงสุด
2. HN Care บริการตรวจการนอนกรนที่สะดวกที่สุด
บูธนี้คือคำตอบสำหรับคนที่มีปัญหาการนอนกรนแต่ไม่อยากไปโรงพยาบาล HN Care ได้นำเสนอบริการ “Home Sleep Test” ที่ส่งผู้เชี่ยวชาญไปดูแลและตรวจวัดคุณภาพการนอนถึงบ้าน เป็นบริการที่เข้าใจ Pain Point ของผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้ง
3. Follizin ถึงเวลาดูแล “ผิว” บนหนังศีรษะของคุณ
Follizin สร้างความประทับใจด้วยการให้ความรู้ใหม่ว่า “หนังศีรษะก็คือผิว” และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดูแลหนังศีรษะด้วยมาตรฐานเดียวกับสกินแคร์ดูแลผิวหน้า! ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีรุนแรง จึงอ่อนโยนและปลอดภัย เหมาะสำหรับคนที่มองหาโซลูชันปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะอย่างยั่งยืน
4. รพ.จุฬารัตน์ 9 และ CH9 Wellness Center ที่สุดแห่งเทคโนโลยีชะลอวัย
บูธนี้เปรียบเสมือนการนำโลกอนาคตมาไว้ตรงหน้า ด้วย 3 นวัตกรรมสุดล้ำ
- การตรวจสารเร่งความแก่ (AGs) – เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ทำให้การตรวจวัดความชราของเซลล์เป็นเรื่องง่าย แค่วัดจากผิว ไม่ต้องเจ็บตัวเจาะเลือด
- Quick Slim Balloon – นวัตกรรมลดน้ำหนักที่ไม่ต้องผ่าตัด ใช้เวลาเพียง 30 นาที และบอลลูนสามารถสลายตัวได้เอง! เหมาะสำหรับคนที่กลัวการผ่าตัด
- Plasmapheresis – การ “ฟอกพลาสมา” เพื่อกำจัดของเสียออกจากร่างกาย ถือเป็นที่สุดของการชะลอวัยจากภายในสู่ภายนอก ที่ช่วยให้ร่างกายกลับมาอ่อนเยาว์ด้วยกลไกของตัวเอง
การปิดฉากของงาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 ด้วยความสำเร็จอันยิ่งใหญ่และเทรนด์สุขภาพใหม่ๆ ที่น่าจับตามากมาย ถือเป็นงานที่ทุกคนในวงการและผู้ที่รักสุขภาพไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง จากนวัตกรรมและองค์ความรู้ที่ได้ถูกนำเสนอในปีนี้ ทำให้เรายิ่งตื่นเต้นและรอคอยว่า ในปีหน้าจะมีเทคโนโลยีและโซลูชันอะไรใหม่ๆ มาให้เราได้ตื่นตาตื่นใจกันอีก แล้วพบกันใหม่ในงานครั้งต่อไปปี 2026



