Breathwork คืออะไร? คู่มือฝึกหายใจ ลดเครียดใน 5 นาที 

พลังของ Breathwork เทคนิคการหายใจง่าย ๆ ที่ช่วยลดเครียดดีอย่างไร ทำไมสามารถเพิ่มสมาธิ และนอนหลับดีขึ้นใน 5 นาที!

ในวันที่ชีวิตวุ่นวาย จนแทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง เคยรู้สึกไหมว่าความเครียดและความวิตกกังวลค่อย ๆ กัดกินพลังชีวิตไปทีละนิด? เราต่างมองหาวิธีดูแลตัวเอง (Self-care) ที่ง่ายและได้ผล แต่หลายคนอาจมองข้ามเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุด ที่เรามีติดตัวมาตั้งแต่เกิด นั่นคือ “ลมหายใจ” I Plan Wellness จะพาไปรู้จักโลกของ Breathwork ตั้งแต่วิทยาศาสตร์เบื้องหลัง ไปจนถึงเทคนิคง่าย ๆ ที่สามารถเริ่มต้นทำได้ทันที 

Breathwork คืออะไร?  

พูดให้เข้าใจง่าย ๆ  Breathwork คือการฝึกควบคุมลมหายใจ อย่างมีสติและมีเป้าหมาย ไม่ใช่แค่การหายใจเข้า-ออกไปวัน ๆ แต่เป็นการใช้ เทคนิคการหายใจที่หลากหลาย เพื่อส่งผลโดยตรงต่อร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ของเรา คือรูปแบบหนึ่งของการบำบัดด้วยการหายใจ ที่สามารถช่วยให้คุณสงบลงได้ในไม่กี่นาที ลดความวิตกกังวลสะสม และอาจเปลี่ยนมุมมองที่คุณมีต่อชีวิตไปเลยก็ได้ 

วิทยาศาสตร์เบื้องหลัง Breathwork หายใจแล้วช่วยลดเครียดได้อย่างไร? 

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมเวลาเราตกใจหรือเครียด เราถึงหายใจสั้นและถี่? และทำไมการถอนหายใจยาว ๆ ถึงทำให้เรารู้สึกดีขึ้น? คำตอบซ่อนอยู่ในกลไกของ ระบบประสาทอัตโนมัติ (Autonomic Nervous System) ซึ่งควบคุมการทำงานของร่างกาย ที่เราสั่งการไม่ได้โดยตรง เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ หรือความดันโลหิต ระบบนี้แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือ 

  • ระบบประสาทซิมพาเทติก (Sympathetic) โหมดสู้หรือหนี  

เมื่อเราเผชิญกับความเครียด ระบบนี้จะทำงาน ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนความเครียด (เช่น คอร์ติซอล) ทำให้หัวใจเต้นเร็ว หายใจตื้นและถี่ขึ้น กล้ามเนื้อตึงตัว เพื่อเตรียมพร้อมให้เรารับมือกับอันตราย ในโลกปัจจุบัน อันตรายของเรา มักเป็นเดดไลน์งาน รถติด หรือความกังวล ซึ่งทำให้โหมดนี้ถูกเปิดใช้งานบ่อยเกินไป จนร่างกายอ่อนล้า 

  • ระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (Parasympathetic) – โหมดพักและย่อย 

ในทางกลับกัน ระบบนี้จะทำงานเมื่อเรารู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลาย ช่วยให้หัวใจเต้นช้าลง ร่างกายเข้าสู่ภาวะสงบและฟื้นฟูตัวเอง ข่าวดีก็คือ “ลมหายใจ” คือสะพานเชื่อม ที่ทำให้เราสามารถ “แฮ็ก” ระบบนี้ได้! การฝึกเทคนิคการหายใจ ให้ช้าลง ลึกขึ้น และเป็นจังหวะ จะเป็นการส่งสัญญาณตรงไปยังสมองว่า ทุกอย่างปลอดภัยแล้ว เพื่อกระตุ้นให้ระบบประสาทพาราซิมพาเทติกทำงาน ทำให้ร่างกายและจิตใจ เข้าสู่โหมดผ่อนคลายได้ตามต้องการ นี่คือเหตุผลว่าทำไมการฝึก Breathwork ถึงช่วยลดความเครียดได้อย่างน่าทึ่ง 

รวม 3 เทคนิคการหายใจ (Breathwork) สำหรับผู้เริ่มต้น 

ไม่ต้องรอให้พร้อม แค่มีเวลา 5 นาทีและพื้นที่เงียบ ๆ ก็สามารถเริ่มต้นได้ทันที ลองเลือกเทคนิคที่เหมาะกับสถานการณ์ของคุณดู 

1. เทคนิคการหายใจแบบกล่อง (Box Breathing) เพื่อสร้างสมาธิ 

เป็นเทคนิคที่หน่วยรบพิเศษอย่าง Navy SEALs ใช้เพื่อเรียกสติและสมาธิ ในสถานการณ์กดดันสูง เหมาะสำหรับใช้ก่อนการประชุม ก่อนพรีเซนต์งาน หรือเมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกว่าจิตใจว้าวุ่น 

ขั้นตอน 

  • นั่งหรือยืนในท่าที่สบาย หลังตรง 
  • ค่อย ๆ หายใจออกจนหมดปอด 
  • หายใจเข้าทางจมูกช้าๆ นับ 1-2-3-4 
  • กลั้นหายใจค้างไว้ นับ 1-2-3-4 
  • หายใจออกทางจมูกหรือปากช้า ๆ นับ 1-2-3-4 
  • กลั้นหายใจอีกครั้ง นับ 1-2-3-4 
  • ทำซ้ำเป็นวงจรนี้ 5-10 รอบ หรือประมาณ 3-5 นาที 

2. เทคนิคการหายใจ 4-7-8 เพื่อการนอนหลับที่ดีขึ้น 

เทคนิคนี้พัฒนาโดย ดร.แอนดรูว์ ไวล์ (Dr. Andrew Weil) เป็นเหมือน “ยานอนหลับตามธรรมชาติ” ช่วยให้ระบบประสาทสงบลงอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับทำก่อนนอน หรือเมื่อรู้สึกตื่นตระหนก กังวลใจมาก ๆ 

ขั้นตอน 

  • นั่งหรือนอนในท่าที่สบาย 
  • นำปลายลิ้นไปแตะที่เพดานปากด้านหลังฟันบน ค้างไว้ตลอดการฝึก 
  • พ่นลมหายใจออกทางปากให้เกิดเสียง “วูช” จนหมดปอด 
  • หุบปาก แล้วหายใจเข้าทางจมูกเบา ๆ นับในใจ 1-2-3-4 
  • กลั้นหายใจ นับ 1-2-3-4-5-6-7 
  • หายใจออกทางปากให้เกิดเสียง “วูช” ยาว ๆ นับ 1-2-3-4-5-6-7-8 
  • ทำซ้ำทั้งหมด 4 รอบ 

3. การหายใจด้วยกระบังลม (Diaphragmatic Breathing) เพื่อลดความเครียดสะสม 

คนส่วนใหญ่มักหายใจด้วยอก ซึ่งเป็นการหายใจที่ตื้นและไม่มีประสิทธิภาพ แต่การหายใจด้วยกระบังลม (หรือการหายใจเข้าท้อง) คือการหายใจที่เป็นธรรมชาติและลึกที่สุด ช่วยนวดอวัยวะภายในและลดความตึงเครียดได้ดีเยี่ยม 

ขั้นตอน 

  • นอนหงาย ชันเข่า หรือนั่งในท่าสบายๆ 
  • วางมือข้างหนึ่งไว้บนหน้าอก และอีกข้างไว้บนหน้าท้อง 
  • หายใจเข้าทางจมูกช้า ๆ โดยตั้งใจให้ “ท้องป่อง” ขึ้น (มือที่ท้องจะขยับสูงขึ้น) พยายามให้หน้าอกอยู่นิ่งที่สุด 
  • หายใจออกทางปากช้า ๆ โดยให้ “ท้องแฟบ” ลง (มือที่ท้องจะยุบลง) 
  • ฝึกทำต่อเนื่อง 5-10 นาทีทุกวัน จะช่วยปรับรูปแบบการหายใจ และลดความเครียดเรื้อรังได้ดี 

ประโยชน์ของ Breathwork ที่มากกว่าการผ่อนคลาย 

การฝึกการบำบัดด้วยการหายใจเป็นประจำ ให้ประโยชน์ที่น่าทึ่งมากกว่า แค่การลดเครียดเฉพาะหน้า 

  • ช่วยให้การนอนหลับมีคุณภาพ การทำให้ระบบประสาทสงบลงก่อนนอน ช่วยให้หลับง่ายขึ้นและหลับลึกขึ้น 
  • เพิ่มออกซิเจนให้ร่างกายและสมอง การหายใจที่ลึกและมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจนในเลือด ทำให้รู้สึกสดชื่น มีพลัง และสมองปลอดโปร่ง 
  • เป็นพื้นฐานของการฝึกสติ (Mindfulness) ลมหายใจคือ “สมอ” ที่ช่วยดึงสติของเรา กลับมาอยู่กับปัจจุบัน ลดความคิดฟุ้งซ่าน 
  • ช่วยรับมือกับอาการแพนิคได้ดีขึ้น  การมีเทคนิคการหายใจ ติดตัวไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ช่วยให้ควบคุมอาการตื่นตระหนกและดึงสติกลับมาได้ 
  • ลดความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจ ส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดในระยะยาว 

เริ่มต้นฝึก Breathwork ต้องเตรียมตัวอย่างไร? 

การเริ่มต้นนั้นง่ายกว่าที่คิด ไม่ต้องมีอุปกรณ์หรือค่าใช้จ่ายใดๆ 

  • หาพื้นที่สงบ เลือกมุมที่จะอยู่คนเดียวได้เงียบ ๆ สัก 5-10 นาที 
  • สวมเสื้อผ้าสบาย ไม่รัดแน่นจนเกินไป เพื่อให้ร่างกายขยายตัวได้เต็มที่ 
  • เริ่มต้นน้อย แค่วันละ 5 นาทีก็สร้างความเปลี่ยนแปลงได้แล้ว เมื่อคุ้นเคยค่อยเพิ่มเวลา 
  • อย่าฝืน ถ้ามีเทคนิคไหน ที่ทำให้รู้สึกเวียนหัวหรือไม่สบาย ให้หยุดแล้วกลับไปหายใจตามปกติ 

ข้อควรระวัง ผู้ที่มีภาวะเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ หรือสตรีมีครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มฝึกเทคนิค Breathwork ที่ซับซ้อน 

Breathwork หรือ การบำบัดด้วยการหายใจ คือเครื่องมือดูแลตัวเอง (Self-care) ที่ทรงพลังและเข้าถึงง่ายที่สุด ทุกครั้งที่รู้สึกเครียด กังวล หรือเหนื่อยล้า ลองหยุดพักสักครู่ แล้วกลับมาอยู่กับลมหายใจของตัวเองลองเริ่มต้นวันนี้ แค่ 5 นาที แล้วจะพบว่าการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต อาจเริ่มต้นได้จากสิ่งที่ทำอยู่แล้วทุกวินาที…แค่ยังไม่เคยใส่ใจมันอย่างแท้จริง 

Piyawan
Piyawan

นักเขียนคอนเทนต์ด้านไลฟ์สไตล์และสุขภาพ มีความสามารถในการย่อยข้อมูลสุขภาพที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย และจับเทรนด์ Wellness ใหม่ ๆ มาเล่าให้คุณฟังก่อนใคร

Articles: 10