รู้หรือไม่ว่า Wellness Economy หรือ เศรษฐกิจเวลเนส มีมูลค่าตลาดทั่วโลกสูงถึง 4.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะพุ่งทะยานไปเกือบ 7 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2025 (ข้อมูลจาก Global Wellness Institute) ตัวเลขมหาศาลนี้ ไม่ใช่แค่เทรนด์ชั่วข้ามคืน แต่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลก ที่หันมาทุ่มเทเงินให้กับการมี “คุณภาพชีวิตที่ดี” มากกว่าแค่การ “รักษาโรค”
สำหรับนักธุรกิจและนักลงทุน นี่ไม่ใช่แค่กระแส แต่คือ Blue Ocean ที่เต็มไปด้วยโอกาสทางธุรกิจสุขภาพที่รอให้เข้าไปค้นหา I Plan Wellness จะพาไปเจาะลึกทุกมิติของ Wellness Economy และชี้เป้าโอกาสที่ไม่ควรพลาด
Wellness Economy คืออะไร? ไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพ แต่คือเศรษฐกิจมหภาค
หลายคนอาจเข้าใจว่า Wellness Economy คือเรื่องของสปาหรือฟิตเนส แต่ในความเป็นจริง กว้างกว่านั้นมาก
Global Wellness Institute (GWI) ให้คำนิยามว่า Wellness Economy คืออุตสาหกรรมที่ช่วยให้ผู้บริโภคนำกิจกรรมและไลฟ์สไตล์แบบ Wellness เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน พูดง่าย ๆ คือธุรกิจสุขภาพ ทุกชนิดที่ไม่ได้มุ่งเน้นการ “รักษา” แต่เน้นการ “ป้องกันและส่งเสริม” สุขภาพที่ดีแบบองค์รวม ทั้งร่างกาย (Physical), จิตใจ (Mental), และสังคม (Social)
ตลาดนี้ครอบคลุมตั้งแต่สิ่งที่กิน (อาหารเพื่อสุขภาพ), ที่อยู่ (อสังหาฯ เพื่อสุขภาพ), วิธีที่ทำงาน (Workplace Wellness), ไปจนถึงวิธีที่ท่องเที่ยว (การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ) คือระบบนิเวศทางธุรกิจขนาดใหญ่ที่แทรกซึมอยู่ในทุกการใช้จ่ายของผู้บริโภคยุคใหม่
ทำไม Wellness Economy ถึงเป็น “เมกะเทรนด์” ที่นักลงทุนห้ามพลาด?
การเติบโตอย่างก้าวกระโดด ของตลาดสุขภาพ ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่มีปัจจัยขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งหลายประการ
- การเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย (Aging Society) ทั่วโลกมีประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้น คนกลุ่มนี้มีกำลังซื้อและพร้อมจ่ายเพื่อยืดเวลาของการมีสุขภาพดีให้นานที่สุด ทำให้ธุรกิจสำหรับผู้สูงอายุ เติบโตอย่างมาก
- บทเรียนจากโควิด-19 การระบาดครั้งใหญ่ ทำให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญ ของการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Healthcare) และภูมิคุ้มกันมากขึ้น การลงทุนในสุขภาพไม่ใช่ทางเลือก แต่คือความจำเป็น
- ความเครียดและปัญหาสุขภาพจิต ไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ที่เร่งรีบ ทำให้ผู้คนเผชิญกับภาวะหมดไฟและความเครียดสูง ตลาด Mental Wellness จึงเติบโตอย่างรวดเร็ว เพื่อตอบสนองความต้องการนี้
- พลังของเทคโนโลยี Health Tech และเทคโนโลยี AI ทำให้การเข้าถึงบริการสุขภาพเป็นเรื่องง่ายและเฉพาะบุคคลมากขึ้น ตั้งแต่สมาร์ทวอทช์ ที่ติดตามการนอนหลับไปจนถึงแอปฯ ให้คำปรึกษาด้านโภชนาการ
เจาะลึก 5 สาขาหลักใน Wellness Economy ที่สร้างโอกาสทางธุรกิจมหาศาล
เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น มาดูกันว่า 5 สาขาที่โดดเด่นและมีศักยภาพสูง ในอุตสาหกรรมเวลเนส มีอะไรบ้าง
1. การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism)
นี่คือสาขาที่ประเทศไทยมีศักยภาพสูงมาก ไม่ใช่แค่การไปเที่ยวพักผ่อน แต่เป็นการเดินทาง เพื่อฟื้นฟูสุขภาพโดยเฉพาะ
โอกาส
ธุรกิจโรงแรมเวลเนส (Wellness Hotel), รีสอร์ทที่จัดโปรแกรมดีท็อกซ์, ศูนย์สุขภาพ (Retreat Center) ที่มีคลาสโยคะและนั่งสมาธิ, ทัวร์สุขภาพที่ผสมผสานการท่องเที่ยวกับกิจกรรมบำบัด
2. สุขภาพกายและความงาม (Healthy Eating, Nutrition & Beauty)
เป็นตลาดที่ใหญ่และใกล้ตัวผู้บริโภคที่สุด ผู้คนยอมจ่ายแพงขึ้น เพื่อผลิตภัณฑ์ที่ดีและปลอดภัยต่อสุขภาพ
โอกาส
- อาหารและโภชนาการ ธุรกิจอาหาร Plant-based, อาหารเสริมเฉพาะบุคคล (Personalized Nutrition), ชุดอาหารคลีนแบบเดลิเวอรี่, ฟาร์มออร์แกนิก
- ความงาม ธุรกิจความงามและสุขภาพ ที่เน้น Clean Beauty (ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ปลอดสารเคมีอันตราย) และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับผู้ชาย (Men’s Grooming)
3. สุขภาพจิต (Mental Wellness)
ตลาดที่เคยถูกมองข้าม แต่ปัจจุบันกลับเติบโตเร็วที่สุด ผู้คนเริ่มมองว่าการดูแลสุขภาพใจ สำคัญไม่แพ้สุขภาพกาย
โอกาส
แอปพลิเคชันสำหรับฝึกสมาธิและจัดการความเครียด (เช่น Calm, Headspace), แพลตฟอร์มให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตออนไลน์, เวิร์กช็อปบำบัดศิลปะ (Art Therapy), สตูดิโอ Sound Bath
4. เทคโนโลยีสุขภาพ (Health Tech)
การนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อทำให้การดูแลสุขภาพง่ายขึ้น แม่นยำขึ้น และเข้าถึงได้มากขึ้น
โอกาส
อุปกรณ์สวมใส่ (Wearable Devices) ที่ติดตามข้อมูลสุขภาพ, แพลตฟอร์ม Telemedicine (การแพทย์ทางไกล), แอปพลิเคชันช่วยวางแผนการออกกำลังกายและโภชนาการ, เทคโนโลยีสำหรับผู้หญิง (Femtech) เช่น แอปฯ ติดตามรอบเดือน
5. อสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพ (Wellness Real Estate)
แนวคิดใหม่ของการพัฒนาที่อยู่อาศัย ที่ไม่ได้มองแค่ความสวยงาม แต่เน้นการออกแบบที่ส่งเสริมสุขภาพของผู้อยู่อาศัย
โอกาส
โครงการคอนโดมิเนียมและหมู่บ้านที่มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่, ระบบหมุนเวียนอากาศคุณภาพสูง, ฟิตเนสและสปาครบวงจร, การใช้วัสดุที่ไม่เป็นพิษ (Non-toxic materials), และการออกแบบที่เน้นแสงธรรมชาติ
แนวโน้มและอนาคตของ Wellness Economy ในประเทศไทย
สำหรับประเทศไทย Wellness Economy ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจตัวใหม่ ที่ภาครัฐและเอกชน กำลังให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยมีจุดแข็งคือ
- ชื่อเสียงด้านบริการและการแพทย์ ไทยมีชื่อเสียงด้านโรงพยาบาลเอกชน, สปา, และการนวดแผนไทยที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลก
- วัตถุดิบและสมุนไพร ความหลากหลายทางชีวภาพ ทำให้เรามีวัตถุดิบชั้นเลิศ สำหรับธุรกิจอาหารสุขภาพและผลิตภัณฑ์ความงาม
- จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว การต่อยอดจากการท่องเที่ยวทั่วไป สู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพ ที่มีกำลังซื้อสูงได้
โอกาสที่น่าจับตามองในไทย
- ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุครบวงจร สร้าง Wellness Community สำหรับผู้สูงวัยชาวไทยและชาวต่างชาติ
- ยกระดับสปาและนวดไทย ผสมผสานเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์การกีฬา เข้ากับการนวดแผนไทย
- อาหารไทยเพื่อสุขภาพ พัฒนาและส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารไทย ที่ดีต่อสุขภาพสู่ตลาดโลก
Wellness Economy ไม่ใช่แค่โอกาสทางธุรกิจ แต่คืออนาคตของการใช้ชีวิต การเข้าใจเทรนด์และลงมือก่อน คือกุญแจสำคัญ ที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในตลาด ที่กำลังเติบโตอย่างไม่มีที่สิ้นสุดนี้