หากเคยรู้สึกเหนื่อยล้าโดยไม่มีสาเหตุ ปวดตามข้อ ป่วยง่าย หรือมีปัญหาผิวพรรณกวนใจไม่หายขาด อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายว่า กำลังมีการอักเสบซ่อนอยู่ ซึ่งไม่ใช่แค่แผลถลอกหรืออาการเจ็บคอ แต่เป็นภาวะอักเสบเงียบ ๆ ที่เกิดขึ้นภายใน และเป็นต้นตอของโรคร้ายแรงมากมาย
แต่ข่าวดีก็คือ เราสามารถต่อสู้กับศัตรูเงียบนี้ได้ ด้วยอาวุธที่ทรงพลังที่สุด และอยู่ใกล้ตัวเราที่สุด นั่นคือ “อาหาร” I Plan Wellness จะพาไปรู้จักกับ อาหารต้านอักเสบ (Anti-inflammatory Diet) หรือแนวทางการกินอาหารลดการอักเสบ ที่เปรียบเสมือนกุญแจสำคัญ ในการเสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ร่างกายได้ ฟื้นฟู ตัวเองจากเซลล์สู่เซลล์อย่างแท้จริง
การอักเสบในร่างกาย คืออะไร? อันตรายแค่ไหน
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจ “การอักเสบ” กันก่อน ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไป การอักเสบเป็นกลไกป้องกันตัวของร่างกาย เปรียบเสมือนทีมดับเพลิง ที่รีบวิ่งไปจัดการเมื่อมีผู้บุกรุก เช่น เชื้อโรค หรือเมื่อเซลล์ได้รับบาดเจ็บ
- การอักเสบเฉียบพลัน (Acute Inflammation) เป็นเพื่อนที่ดีของเรา เช่น เวลาโดนมีดบาด นิ้วจะบวม แดง ร้อน เพื่อให้เลือดขาวและสารต่าง ๆ มาซ่อมแซมแผล เมื่อแผลหาย การอักเสบก็จะจบลง
- การอักเสบเรื้อรัง (Chronic Inflammation) นี่คือตัวปัญหาที่แท้จริง! โดยเป็นการอักเสบระดับต่ำ ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลานาน ร่างกายไม่สามารถปิดสวิตช์ได้ เหมือนมีไฟไหม้กรุ่น ๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งเกิดจากปัจจัยกระตุ้นซ้ำ ๆ เช่น ความเครียด การพักผ่อนน้อย มลภาวะ และที่สำคัญคือ อาหารที่เรารับประทานเข้าไป
การอักเสบเรื้อรัง นี่แหละที่เป็นต้นเหตุของโรคร้ายที่หลายคนกลัว ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ เบาหวานชนิดที่ 2 โรคข้ออักเสบ โรคอ้วน ภูมิแพ้ต่าง ๆ ไปจนถึงโรคมะเร็ง
หลักการของ Anti-inflammatory Diet ทำงานอย่างไร
แนวคิดของ Anti-inflammatory Diet หรืออาหารต้านอักเสบ ไม่ใช่การอดอาหารที่ซับซ้อน แต่คือการเลือกกินอย่างชาญฉลาด โดยเน้นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารทรงพลัง ที่ช่วยดับไฟอักเสบในร่างกาย หลักการทำงานคือ การส่งกองทัพสารอาหาร เข้าไปช่วยร่างกายโดยตรง ผ่านกลไกสำคัญ 3 อย่าง
- สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) เปรียบเสมือนหน่วยคุ้มกันเซลล์ คอยต่อสู้กับอนุมูลอิสระ (Free Radicals) ตัวการร้ายที่สร้างความเสียหายให้เซลล์ และจุดชนวนการอักเสบ สารกลุ่มนี้พบมากในผักผลไม้สีสันสดใส
- กรดไขมันโอเมก้า 3 (Omega-3 Fatty Acids) คือหน่วยสร้างสันติภาพ ที่ช่วยปรับสมดุลกรดไขมันในร่างกาย ร่างกายเราต้องการทั้งโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 แต่ไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน ทำให้ได้รับโอเมก้า 6 (ที่มักกระตุ้นการอักเสบ) มากเกินไป การเติมโอเมก้า 3 จึงเข้าไป ช่วยลดการอักเสบและสร้างสารที่ทำให้ร่างกายสงบลง
- โพลีฟีนอล (Polyphenols) เป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษจากพืช มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังมาก ช่วยปกป้องเซลล์และส่งสัญญาณ ให้ร่างกายลดกระบวนการอักเสบลง
เมื่อรับประทานอาหารเหล่านี้เป็นประจำ ก็เหมือนกับการเปลี่ยน จากเติมเชื้อไฟให้กับการอักเสบ มาเป็นการราดน้ำดับไฟให้มอดลงนั่นเอง
10 สุดยอดอาหารต้านอักเสบ ที่คุณต้องกิน
- ปลาทะเลน้ำลึก (แซลมอน, แมคเคอเรล, ซาร์ดีน) ราชาแห่งโอเมก้า 3 ที่ช่วยลดการอักเสบได้โดยตรง ควรพยายามทานให้ได้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
- ขมิ้นชันและขิง สองสุดยอดสมุนไพรไทย ขมิ้นชันมีสาร “เคอร์คูมิน” และขิงมี “จินเจอร์รอล” ซึ่งเป็นสารต้านการอักเสบ ที่ทรงประสิทธิภาพมาก ใช้ประกอบอาหารหรือชงเป็นชาก็ดีเยี่ยม
- ผักใบเขียว (ปวยเล้ง, เคล, บรอกโคลี) อัดแน่นไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะบรอกโคลีที่มีสาร “ซัลโฟราเฟน” ช่วยลดการอักเสบได้ดี
- ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ (สตรอว์เบอร์รี, บลูเบอร์รี, ราสเบอร์รี) เต็มไปด้วย “แอนโทไซยานิน” ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ให้สีสันสดใสและมีฤทธิ์ต้านการอักเสบสูง
- ถั่วและเมล็ดพืช (อัลมอนด์, วอลนัท, เมล็ดเจีย): เป็นแหล่งของไขมันดี, ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะวอลนัทที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3
- น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ (Extra Virgin Olive Oil) ไขมันดีที่มีสาร “โอเลโอแคนธัล” (Oleocanthal) ซึ่งออกฤทธิ์คล้ายยาแก้ปวดลดอักเสบอย่าง ไอบูโพรเฟน
- อะโวคาโด ผลไม้ที่เต็มไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว โพแทสเซียม และแมกนีเซียม ซึ่งล้วนมีส่วนช่วยลดการอักเสบในร่างกาย
- มะเขือเทศ แหล่งของไลโคปีน (Lycopene) สารต้านอนุมูลอิสระชั้นยอด การนำมะเขือเทศไปปรุงอาหารด้วยความร้อน กับน้ำมันมะกอก จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมไลโคปีนได้ดียิ่งขึ้น
- ชาเขียว อุดมไปด้วยสารกลุ่มโพลีฟีนอล ที่ชื่อว่า EGCG ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการลดการอักเสบและปกป้องเซลล์จากความเสียหาย
- ดาร์กช็อกโกแลตและโกโก้ เลือกชนิดที่มีโกโก้ 70% ขึ้นไป จะได้รับสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) เต็ม ๆ ที่ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรงและลดการอักเสบ
อาหารที่ควรเลี่ยง ยิ่งกินยิ่งอักเสบ
- การเติมของดีเข้าสู่ร่างกายอย่างเดียวไม่พอ ต้องลดการเติมเชื้อไฟเข้าไปด้วย พยายามลดหรืองดอาหารกลุ่มนี้
- น้ำตาลและน้ำเชื่อมฟรุกโตสสูง พบในน้ำอัดลม ขนมหวาน เบเกอรี่ เป็นตัวกระตุ้นการอักเสบอันดับต้น ๆ
- ไขมันทรานส์ พบในมาร์การีน ของทอดซ้ำ ขนมอบจากโรงงานอุตสาหกรรม เป็นไขมันตัวร้ายที่ควรเลี่ยงที่สุด
- น้ำมันพืชบางชนิด เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด ซึ่งมีโอเมก้า 6 สูง ทำให้สมดุลไขมันเสียไป
- แป้งขัดขาว ขนมปังขาว พาสต้า ข้าวขาว ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงและกระตุ้นการอักเสบ
- อาหารแปรรูปและเนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม อาหารแช่แข็ง มักมีสารปรุงแต่งและไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
ตัวอย่างเมนูอาหารต้านอักเสบ 1 วัน ทำตามได้ง่ายๆ
เห็นลิสต์อาหารแล้ว อาจจะยังนึกภาพไม่ออก ลองดูตัวอย่างเมนูง่าย ๆ ที่รวมเอาสุดยอด อาหารลดการอักเสบ มาไว้ด้วยกัน
มื้อเช้า สมูทตี้เบอร์รี่พลังต้านอักเสบ
ส่วนผสม กรีกโยเกิร์ต ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่แช่แข็ง ปวยเล้ง 1 กำมือ เมล็ดเจีย 1 ช้อนโต๊ะ และอัลมอนด์เล็กน้อย ปั่นรวมกัน
มื้อกลางวัน สลัดอกไก่สายรุ้ง
ส่วนผสม อกไก่ย่าง ผักสลัดหลากสี มะเขือเทศราชินี อะโวคาโดครึ่งลูก ราดด้วยน้ำสลัดน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์
มื้อเย็น สเต็กปลาแซลมอนกับผักย่าง
ส่วนผสม ปลาแซลมอนย่างเกลือพริกไทย บรอกโคลีและแครอทย่างด้วยน้ำมันมะกอก ทานคู่กับข้าวกล้องหรือควินัว
การปรับเปลี่ยนการกินมาสู่แนวทาง อาหารต้านอักเสบ ไม่ใช่การไดเอท ที่ต้องหิวโหยหรือเคร่งครัดจนเกินไป แต่เป็นการเลือกลงทุนกับสุขภาพในระยะยาว เป็นการฟื้นฟูร่างกาย จากภายในสู่ภายนอกอย่างแท้จริง แค่เริ่มจากการเพิ่มอาหารดี ๆ ในลิสต์เข้าไปในมื้ออาหาร และค่อย ๆ ลดอาหารที่กระตุ้นการอักเสบลงทีละน้อย ร่างกายจะค่อย ๆ ตอบสนองในทิศทางที่ดีขึ้น จะรู้สึกมีพลัง สดใส และแข็งแรงกว่าเดิม เพราะสุขภาพที่ดีที่สุด เริ่มต้นจากจานอาหารของคุณเอง